หลายคนมองเห็นวิดีโอเกมส์เป็นปัญหาสำหรับเด็ก ไม่คิดว่าจะเกิดประโยชน์อะไรมากนัก ความจริงแล้ววิดีโอเกมส์เป็นกิจกรรมความบันเทิงที่เล่นได้ทุกเพศวัย สำคัญอยู่ที่การเลือกลักษณะของเกมให้เหมาะสม รวมทั้งเลือกให้เหมาะกับทักษะของแต่ละคนด้วย มีข้อดีที่มองข้ามไม่ได้ดังต่อไปนี้
7 ข้อดีของวิดีโอเกมส์
1.วิดีโอเกมชะลอความชรา
ชายหญิงวัยกลางคนอายุมากและฉลาด แต่มีข้อจำกัดเรื่องความร่วงโรยของวัยทำให้เกิดปัญหา มักจะเห็นคนชราขับรถที่ความเร็วแค่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งที่ขีดจำกัดความเร็วในเขตเทศบาลอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรงต่อสู้กับความชราได้ การเล่นเกมก็ช่วยให้สมองของคนวัย 60 ปีรู้สึกเหมือน 50 ปีได้เช่นเดียวกัน
2.การตัดสินใจดีกว่า
นักวิจัยศึกษาว่าเกมมีผลต่อความสามารถในการตัดสินใจของเราอย่างไร ในขณะที่เราดูและติดตามการเคลื่อนไหวของภาพ ใช้มือควบคุมอุปกรณ์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรับข้อมูลและประสาทสัมผัสทำให้การตัดสินใจแม่นยำมากขึ้น
3.เล่นเกมไม่เสียสายตา
ผู้ใหญ่เป็นกังวลว่าเด็กเล่นเกมจ้องหน้าจอทุกวันจะเกิดปัญหาร้ายแรง เช่น สายตาสั้นและโรคตาแห้ง เพราะกระพริบบ่อยมากขึ้นในขณะที่เล่นเกม การศึกษาวิจัยในปี พ.ศ.2552 แบ่งกลุ่มเล่นเกมแอคชั่นและเกมช้า พบว่าเกมแอคชั่นที่ภาพเคลื่อนไหวเร็วช่วยให้แยกแยะการเปลี่ยนแปลงเฉดสีเทากับฉากหลังได้ดีกว่า ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในขณะขับรถในเวลากลางคืน
4.วิดีโอเกมส์ลดการต่อต้านสังคม
นักเล่นเกมไม่ได้มีปัญหาเรื่องการพบปะกับเพื่อนฝูง บางคนเป็นนักเล่นเกมใต้ดินที่มีปัญหาจริง แต่ส่วนใหญ่จะพบเพื่อนใหม่ ๆ ในเกมออนไลน์ พฤติกรรมทางสังคมในหมู่ผู้เล่นเป็นเรื่องปกติ มีการสื่อสารและเป็นมิตรกันมากที่สุด บางคนนัดพบกันกลายเป็นเพื่อนกันก็มี สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่นเกมเนื่องจากความรักชอบตรงเกมเหมือนกันนั่นเอง
5.เกมเพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้
นักวิจัยจากสหราชอาณาจักรพบว่า วิดีโอเกมบางประเภทเปิดมุมมองใหม่ คิดวิธีแก้ปัญหาหลายทาง ความคิดยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะเกมประเภทกลยุทธ์ คนเล่นจะรู้จักวางแผนและร่วมมือเล่นเกมกันเป็นทีม การเล่นเกมช้าอาจจะไม่ให้ประโยชน์มากเท่ากับเกมที่เล่นอย่างรวดเร็ว กระตุ้นให้ตัดสินใจเร็วขึ้น เกมช่วยปรับปรุงการประสานงานระหว่างมือกับตา หลายอาชีพต้องใช้ทักษะนี้มากกว่าคนทั่วไป เช่น ศัลยแพทย์
6.มีสมาธิดีขึ้น
พ่อแม่กังวลว่าลูกจะหมกมุ่นเล่นเกมในชั้นเรียนแทนที่จะฟังครู แต่ความจริงเกมฝึกฝนให้เด็กมีสมาธิและมีความสนใจมากกว่าเดิม ควรสอนให้เขารู้จักแบ่งเวลา รู้ว่าอะไรสำคัญ จะไม่เกิดปัญหาอย่างที่กังวล
7.วิดีโอเกมส์รักษาอาการซึมเศร้า
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิจัยชาวนิวซีแลนด์ค้นคว้าว่าวิดีโอเกมใช้เพื่อรักษาความผิดปกติทางจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าได้หรือไม่ โดยออกแบบเกม SPARX เพื่อบำบัดวัยรุ่นที่มีอาการซึมเศร้า เด็กพอใจเล่นเกมที่สนุกสนานมากกว่าการพบจิตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เนื้อหาของเกมเกี่ยวกับการสร้างตัวอวตารเพื่อกำจัดโลกเสมือนจริงของศัตรูที่เป็นตัวแทนของความเศร้าและความคิดเชิงลบ ช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายและฟื้นตัวดีขึ้น อาจเป็นทางเลือกสำหรับเด็กที่ไม่ได้เข้ารับการรักษา
ประโยชน์ทั้งหมดจากวิดีโอเกมส์เป็นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้ว ทุกวันนี้จะเห็นว่าเริ่มมีการใช้เกม Wii Sports และ Wii Fit ของ Nintendo เป็นอุปกรณ์บำบัดและให้ความบันเทิงในโรงพยาบาลและบ้านพักคนชรา ช่วยให้ได้ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและออกกำลังกายเบา ๆ การเล่นเกมมีประโยชน์ต่อเด็กมากกว่าการนั่งดูทีวีและการท่องอินเทอร์เน็ต ทั้งสนุกสนาน แก้เหงาและผ่อนคลายความเครียดได้ด้วย
Comments are closed.